อาการของโรคกรดไหลย้อนมักจะกำเริบมากขึ้นหลังจากที่กินอาหารมื้อหนัก ๆ หรือกินอาหารบางชนิดที่มีฤทธิ์กระตุ้นให้กรดหลั่งออกมามากขึ้น โรคกรดไหลย้อนเป็นโรคที่มักมีอาการเป็น ๆ หาย ๆ หากผู้ป่วยยังคงมีพฤติกรรมการรับประทานอาหารแบบเดิม ๆ ที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะการรับประทานอาหารที่ส่งผลให้อาการกรดไหลย้อนเพิ่มสูงขึ้น
อาหารที่ผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อน ควรรับประทาน ได้แก่
- อาหารไขมันต่ำ เช่น เนื้อไม่ติดมัน เนื้อปลา ไก่ ไข่ขาว นมไขมันต่ำ หรือน้ำเต้าหู้ เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีสำหรับผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อน
- ไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันงา อะโวคาโด น้ำมันดอกทานตะวัน ลดการบริโภคไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ โดยแนะนำให้รับประทานไขมันไม่อิ่มตัวที่ดีต่อสุขภาพเหล่านี้แทน
- อาหารไฟเบอร์สูง เช่น ข้าวซ้อมมือ ข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี ข้าวโอ๊ต ธัญพืชต่าง ๆ โฮลวีต โฮลเกรน เนื่องจากเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยกากใยอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยในการขับถ่าย และไม่เพิ่มกรดในกระเพาะอาหาร
- ผลไม้สำหรับคนเป็นกรดไหลย้อน คนเป็นกรดไหลย้อนไม่ควรกินผลไม้ที่มีกรดมาก ผลไม่ที่เหมาะสำหรรับผู้ที่เป็นกรดไหลย้อน ได้แก่ แตงโม แคนตาลูป เมลอน แอปเปิล พีช ลูกแพร์ หรือผลไม้รสหวานชนิดอื่น ๆ ที่ไม่มีรสเปรี้ยว
- กล้วย เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อน เนื่องจากการกล้วยช่วยลดอาการปวดท้อง และมีสารเซโรโทนิน ที่ช่วยยับยั้งการหลั่งของน้ำย่อยของกระเพาะอาหาร และกระตุ้นให้ลำไส้เล็กบีบตัวมากขึ้น จึงช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารและทางเดินอาหารได้ นอกจากนี้ ในกล้วยยังมีสารแทนนินที่อยู่ในกล้วยมีฤทธิ์ฝาดสมานสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียได้ดี ช่วยเคลือบป้องกันผนังทางเดินอาหารไม่ให้ถูกทำลายโดยของที่มีรสเผ็ดร้อน อาหารที่มีการระคายเคืองทางเดินอาหาร รวมถึงกรดในกระเพาะอาหารที่หลั่งออกมาตอนท้องว่าง
- ผักที่มีไขมันและน้ำตาลต่ำ เช่น ผักใบเขียว บร็อคโคลี่ หน่อไม้ฝรั่ง กะหล่ำดอก มันฝรั่ง ถั่วเขียว แตงกวา เป็นต้น
สำหรับอาหารที่ผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อน ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่
- อาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารทอด/ผัด ฟาสต์ฟู้ด อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น กะทิ นม เนย ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากมันเนย ชีส ไอศกรีม ซอสครีม น้ำสลัดชนิดครีม เนื้อติดมันมาก หรือไขมันจากเนื้อสัตว์ เป็นต้น เนื่องจากไขมันจากอาหารเหล่านี้จะไปรวมตัวกับกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดอาการจุกเสียด แน่น และแสบร้อนที่กลางอกได้
- อาหารเสริมบางชนิดที่มีไขมันสูงและเพิ่มกรดในกระเพาะ ผู้ที่เป็นกรดไหลย้อนจะไม่แนะนำให้กินอาหารเสริมน้ำมันตับปลา สารสกัดจากกระเทียม เนื่องจากทำให้หูรูดหลอดอาหารส่วนล่างคลายตัว และเสี่ยงเพิ่มกรดในกระเพาะอาหารอีกด้วย
- ช็อกโกแลต เนื่องจากประกอบด้วยสารที่มีชื่อว่า เมททิลแซนทีน (methylxanthine) ทำให้กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนล่างคลายตัว
- แป้งข้าวโพด และมันฝรั่งอบกรอบ เนื่องจากทำให้กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนล่างคลายตัว กรดจึงไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหารได้ง่ายขึ้น
- เครื่องดื่มคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ โกโก้ เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำอัดลม โซดา เนื่องจากทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร จึงกระตุ้นการสร้างน้ำย่อยมากขึ้น
- แอลกอฮอล์ เนื่องจากแอลกอฮอล์เพิ่มปริมาณการสร้างกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้กรดจากกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับไปที่หลอดอาหารได้ง่ายขึ้น
- อาหารรสจัด เช่น เผ็ดจัด เค็มจัด เปรี้ยวจัด เป็นต้น
- น้ำส้มสายชู เนื่องจากมีความเป็นกรดสูง จึงเป็นการเพิ่มกรดในกระเพาะอาหาร
- ผลไม้ที่มีกรดมาก เช่น หัวหอม กระเทียม มะเขือเทศ ส้ม มะนาว เลมอน องุ่น เกรพฟรุต สับปะรด แครนเบอร์รี่ หรือมะเขือเทศ ซอสมะเขือเทศ และผลไม้รสเปรี้ยวจัด
- อาหารหมักดอง เนื่องจากมีส่วนเพิ่มแก๊สในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดอาการจุกเสียดแน่นท้องได้
- หมากฝรั่ง การเคี้ยวหมากฝรั่งจะเพิ่มการหลั่งน้ำลาย ทำให้เราต้องกลืนน้ำลายลงท้องมากขึ้น ซึ่งก็เท่ากับจะได้กลืนลมลงกระเพาะอาหารมากขึ้นด้วย ดังนั้น คนเป็นกรดไหลย้อนจึงไม่ควรเคี้ยวหมากฝรั่งบ่อย ๆ นาน ๆ ครั้งอาจจะพอไหวค่ะ
กล้วยถือว่าเป็นผลไม้ทางเลือกสำหรับผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อน โดยเฉพาะกล้วยดิบที่มีสารแทนนินอยู่มาก ผงกล้วยน้ำว้าดิบ “ตราน้ำว้า” เครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อน ช่วยลดอาการจุกเสียดหน้าอก ปวดท้อง อาหารไม่ย่อย แน่นท้อง เรอเปรี้ยว เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการของโรคกรดไหลย้อน และปัญหาแผลในทางเดินอาหาร
สนใจ เครื่องดื่มกล้วยน้ำว้าดิบ ชนิดผง ตราน้ำว้า เพิ่มเติม
เอกสารอ้างอิง
-
https://www.healthline.com/health/gerd/diet-nutrition#foods-to-avoid. 8 January 2019.
-
https://www.healthline.com/health/gerd/diet-nutrition. 8 January 2019.
-
https://www.webmd.com/digestive-disorders/features/foods-that-fight-heartburn#1. 12 November 2013.
-
https://www.webmd.com/heartburn-gerd/features/heartburn-foods-to-avoid#1. Access online: 13 January 2020.