ความเครียด เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้อาการโรคกระเพาะอาหารกำเริบ เพราะในขณะที่เราเครียด ระบบประสาทอัตโนมัติจะทำงานมากขึ้น มีผลกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งน้ำย่อยมากกว่าปกติ ซึ่งอาจเกิดการระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารและลำไส้ และมีผลต่อการบีบตัวของกระเพาะร่วมด้วย
ปกติโรคกระเพาะจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีแผล และ กลุ่มที่ไม่มีแผล ส่วนใหญ่ผู้ที่ประสบกับภาวะเครียดลงกระเพาะจะเกิดกับโรคกระเพาะกลุ่มที่ไม่มีแผล ส่วนใหญ่มีอาการปวดจุกบริเวณลิ้นปี่เป็น ๆ หาย ๆ ซึ่งมักจะเกิดหลังรับประทานอาหาร ซึ่งถ้ามีภาวะเครียดก็อาจทำให้อาการกำเริบได้ ทำให้มีอาการบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้นได้
อาการของภาวะเครียดลงกระเพาะ ส่วนใหญ่จะมีอาการปวด จุก แน่น แสบบริเวณลิ้นปี่ คลื่นไส้อาเจียน แน่นหน้าอก หรือเรอบ่อยได้ มักจะเกิดหลังจากรับประทานอาหาร อย่างไรก็ตาม ก็อาจจะเกิดอาการระหว่างมื้ออาหารได้เช่นเดียวกัน อาการมักไม่รุนแรง เป็น ๆ หาย ๆ มีเพียงส่วนน้อยที่มีอาการรุนแรงมาก ถ้าเป็นมากอาจถึงขั้นอาเจียน หรือถ่ายอุจจาระออกมาเป็นเลือด ซึ่งบ่งชี้ว่าอาการอยู่ในขั้นอันตราย ควรรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาอย่างเร่งด่วน หากปล่อยทิ้งไว้หรือช้าเกินไปอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
สำหรับการปฏิบัติตัวเพื่อลดหรือหลีกเลี่ยงภาวะเครียดลงกระเพาะ
🥣 อันดับแรก คือ รับประทานอาหารให้ตรงเวลา หมายถึงรับประทานอาหารเวลาไหนก็ให้รับประทานเวลานั้นทุกวัน
🍌อันดับสอง คือ ชนิดของอาหาร จะต้องเลือกชนิดของอาหารค่ะ อาหารบางชนิดจะกระตุ้นให้เกิดอาการค่อนข้างบ่อย เช่น อาหารที่มีรสจัด จะทำให้เกิดอาการแสบหรือปวดท้องได้บ่อยขึ้น และอาหารมันก็มักจะทำให้เกิดอาการจุก แน่นท้อง และต้องหลีกเลี่ยงยาหรือสารบางอย่างที่ทำให้มีอาการมากขึ้น เช่น ยาแก้ปวดกลุ่มแอสไพริน กลุ่มเอ็นเสด
🧘♀️นอกจากนั้น การดูแลสุขภาพทั่วไปเเละรวมทั้งทำกิจกรรมผ่อนคลายความเครียด เช่น การออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ วิ่งเหยาะๆ เดินเร็ว ขี่จักรยาน เต้น แอโรบิค หรือทำสมาธิ อ่านหนังสือ จะช่วยลดความเครียด และในระยะยาวยังสามารถรักษาโรคเครียดลงกระเพาะได้ หากปฏิบัติเบื้องต้นแล้ว อาการยังไม่ทุเลา แนะนำให้พบคุณหมอเพื่อตรวจเพิ่มเติมตามเหมาะสม และใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการได้ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลเนื้อหาจาก คณะเเพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาลค่ะ