ช็อกโกแลตคือ เมล็ดของต้นโกโก้เขตร้อน (Tropical Cacao Tree) โดยเป็นส่วนผสมระหว่างเมล็ดโกโก้ กับเนยโกโก้หรือไขมันของเมล็ดโกโก้ ปัจจุบันช็อกโกแลต​มีหลากหลายรูปแบบเเละหลายรสชาติ​

แล้วจริงหรือที่ว่า กินช็อกโกแลตแล้วมีผลต่อกรดไหลย้อน​

1. ช็อกโกแลตมี​สารเมทิลเเซนทีน​ (Methyl-xanthine) ซึ่งมีรายงานว่าทำให้หูรูดหลอดอาหาร​มีการคลายตัวมากขึ้น​ โดยกล้ามเนื้อหูรูดส่วนปลายหลอดอาหาร ที่ทำหน้าที่ป้องกันกรดไหลย้อนจากกระเพาะอาหารมีความดันของหูรูดต่ำหรือเปิดบ่อยขึ้น ส่งผลให้เกิดความผิดปกติของการบีบตัวของกระเพาะอาหาร ทำให้อาหารค้างอยู่ในกระเพาะอาหารนานกว่าปกติ ทำให้เพิ่มโอกาสการไหลย้อนของกรดจากกระเพาะอาหารสู่หลอดอาหารมากขึ้น

2. ช็อกโกแลต​มีส่วนผสมของ​โกโก้​ (Cocoa) โดยช็อกโกแลตแท่งไหนทำจ­ากโกโก้แท้และยิ่งเข้มข้นเท่าไรปริม­าณ​คาเฟอีน​ก็จะยิ่งสูงขึ้น ซึ่งคาเฟอีนจะไปเพิ่มการหลั่งของน้ำย่อยเเละกรดในกระเพาะ​อาหาร​มากยิ่งขึ้น

3. ช็อกโกแลต​มี​เนยโกโก้​ (Cocoa butter) เป็นส่วนผสม​ โดยเนยโกโก้เป็น#ไขมันชนิดหนึ่งที่ทำให้ช็อกโกแลต​ขึ้นรูปได้​ เนยโกโก้มีไขมันที่สูง​ที่ทำให้กระเพาะใช้เวลาในการย่อยอาหารนานขึ้น​ เเละไขมันนี้จะไปรวมกับกรดในกระเพาะ​อาหาร​ ทำให้เกิดอาการจุก​ แน่น​ หรือร้อนที่กลางอกได้

จะเห็นได้ว่าการรับประทานช็อกโกแลต​จะกระตุ้นให้อาการกรดไหลย้อนกำเริบมากขึ้น​ ดังนั้นผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อน​ ควรจะหลีกเลี่ยง​การรับประทานช็อกโกแลต​เเละระวังเรื่องของอาหารและพฤติกรรมในการกินอาหาร​ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยลดไม่ให้อาการกรดไหลย้อนกำเริบขึ้นมาได้ค่ะ