ปวดหัวไมเกรน เป็นความเจ็บป่วยทางร่างกายที่พบได้บ่อยโดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงาน เนื่องมาจากสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน ทำให้ผู้คนในสังคมต้องเผชิญกับความเครียดอย่างต่อเนื่องและกลายเป็นความเครียดสะสมที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ
อาการปวดหัวไมเกรน ส่วนใหญ่มักมีอาการปวดศีรษะครึ่งซีก อาจเป็นบริเวณขมับหรือท้ายทอย แต่บางครั้งก็อาจเป็นสองข้างพร้อมกันหรือเป็นสลับข้างกันได้ ลักษณะการปวดศีรษะส่วนมากจะปวดตุ๊บ ๆ อาจปวดสั้น ๆ ปวดนานเป็นวันหรือสัปดาห์ก็ได้ ผู้ป่วยบางรายอาจมีปวดตื้อ ๆ สลับกับปวดตุ๊บ ๆ ในสมอง อาการปวดศีรษะมักรุนแรงจนรบกวนการดำเนินชีวิตประจำวัน และส่วนมากจะมีการคลื่นไส้ หรืออาเจียนร่วมด้วย ส่วนใหญ่อาการที่เกิดขึ้นมักสัมพันธ์กับต่อสิ่งเร้าที่กระตุ้นให้เกิดอาการ เช่น การอดนอน การรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา อากาศร้อน แสงจ้า ความเครียด แสงอึกทึก ในเพศหญิงยังมีเรื่องของฮอร์โมนเพศเข้ามาเกี่ยว เช่น ก่อนหรือหลังมีประจำเดือนอาจมีอาการไมเกรนกำเริบขึ้นมา เป็นต้น หลายคนอาจมีอาการนำมาก่อนปวดศีรษะราว 10-20 นาที เช่น เห็นแสงเป็นเส้น ๆ ระยิบระยับ แสงจ้าสะท้อน หรือเห็นภาพบิดเบี้ยวนำมาก่อน
อาการไมเกรนมักเกิดจากหลอดเลือดในสมองมีการหดตัวเกิดขึ้น หลังจากนั้นร่างกายจึงมีการตอบสนองตามมาซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหัว สำหรับวิธีการบรรเทาอาการไมเกรน ส่วนใหญ่จะเป็นการใช้ยาบรรเทาอาการ เช่น ยาลดการอักเสบที่ไม่ไช่สเตียรอด์ (NSAIDs) ยากลุ่ม Triptans และยาที่มีส่วนผสมของ Ergotamine เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การใช้ยาดังกล่าวมีผลข้างเคียงมากมาย
อีกหนึ่งทางเลือก คือ การบรรเทาและป้องกันอาการปวดศีรษะไมเกรนโดยไม่จำเป็นต้องใช้ยา แต่ใช้การหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความเครียด แสงจ้า อากาศร้อน ขึ้นอยู่กับว่าอะไรที่เป็นปัจจัยกระตุ้นของตนเอง ร่วมกับการใช้สมุนไพรเพื่อควบคุมและบรรเทาอาการ โดยสมุนไพรที่มีผลดีในการป้องกันและบรรเทาอาการไมเกรนที่เราจะมาแนะนำกัน ได้แก่ ขิง
ขิง เป็นสมุนไพรคู่ครัวที่หาได้ง่าย มีสรรพคุณช่วยลดปวด ลดอักเสบ ขยายหลอดเลือด และช่วยต้านอนุมูลอิสระ โดยฤทธิ์ดังกล่าวมีสารประกอบสำคัญมากกว่า 200 ชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาร 6-gingerol, 6-shogaol และ 6-paradol รวมถึงสารในกลุ่มน้ำมันหอมระเหยหลากหลายชนิดที่มีอยู่ในขิงอีกด้วย การแก้ปวดหัวไมเกรนของขิงเกิดจากการที่ขิงไปยับยั้งสารก่ออักเสบที่ทำให้ปวด ซึ่งมีชื่อว่า “พรอสต้าแกลนดิน (prostaglandin)” ในร่างกาย และเป็นกลไกการออกฤทธิ์เดียวกันกับการใช้ยาแผนปัจจุบันที่มีฤทธิ์ลดอักเสบในกลุ่ม NSAIDs (Non-steroidal anti-inflammatory drugs) เช่น ยาไอบูโพรเฟน ยาไดโคลฟีแนค ยาอินเมทาซิน และยานาพร็อกเซน เป็นต้น นอกจากนี้ ขิงยังช่วยขยายหลอดเลือดและต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการไมเกรนที่เกิดขึ้นจากการหดตัวของหลอดเลือดและการสะสมของอนุมูลอิสระในร่างกายที่ไปทำลายเซลล์หลอดเลือดต่าง ๆ ดังนั้น การไปขยายหลอดเลือดและต้านอนุมูลอิสระจึงช่วยให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้น จากงานวิจัยที่ได้ทำการแบ่งการรักษาออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่คนไข้ได้รับขิงชนิดผง (Ginger powder) และอีกกลุ่มหนึ่งได้รับยา Sumatriptan ซึ่งเป็นตัวยาแผนปัจจุบันที่ใช้ในการรักษาไมเกรน พบว่า 2 ชั่วโมงหลังจากได้รับการรักษาด้วยอย่างใดอย่างหนึ่ง อาการปวดศีรษะรุนแรงลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ขิงมีผลข้างเคียงน้อยกว่ายา Sumatriptan จึงเป็นการทดลองที่ยืนยันผลของขิงได้เป็นอย่างดี
การรับประทานขิงนอกจากจะช่วยให้อาการปวดหัวดีขึ้นแล้ว ยังช่วยขับลม ลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยคุมน้ำหนัก และบรรเทาอาการของโรคทางเดินอาหารได้ดีอีกด้วย จึงเหมาะสำหรับกลุ่มผู้ที่มีอาการไมเกรน ผู้ที่มีความเครียด และใช้ชีวิตเร่งรีบทานอาหารไม่เป็นเวลาอย่างยิ่ง การป้องกันและลดอาการปวดหัวและลดอักเสบโดยใช้สมุนไพรนับว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยและได้ผลดี
“ผงขิงออร์แกนิคสำเร็ปรูป ตราจินเจอร์ริก” ผลิตจากขิงแก่ออร์แกนิค 100% ที่มีความปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงน้อยจากความเป็นสมุนไพรธรรมชาติ สามารถช่วยป้องกันและลดอาการปวดหัวไมเกรนได้เป็นอย่างดีค่ะ
เอกสารอ้างอิง
-
https://www.healthline.com/health/ginger-for-headache. April 2019.
-
https://migraine.com/migraine-treatment/natural-remedies/ginger-for-migraine-headaches/#:~:text=Because%20nausea%20and%20vomiting%20are,it%20may%20help%20with%20migraine. November
-
https://www.migraineagain.com/ginger-for-migraine-relief/. January 2020.
-
https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/23657930/. May 2013.