ในช่วงปีที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อนเพิ่มมากขึ้นถึงร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับเมื่อ 5 ปีก่อน และนับวันจะยิ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนหนึ่งเกิดจากการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ พฤติกรรมที่เร่งรีบ ความเครียดเรื่องงาน ปัญหาเรื่องเงินทอง รวมถึงชีวิตครอบครัว ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้โรคกรดไหลย้อนทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น
โรคกรดไหลย้อนเป็นภาวะที่เกิดจากความผิดปกติของน้ำย่อยจากกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไปในหลอดอาหาร ส่วนใหญ่เกิดจากภาวะหูรูดระหว่างหลอดอาหารและกระเพาะอาหารหย่อน ทำให้กรดสามารถไหลย้อนกลับขึ้นมาได้ จึงเกิดอาการจุกแน่นหน้าอกคล้ายกับอาหารไม่ย่อย แสบร้อนบริเวณหน้าอก เรอบ่อย มีน้ำรสขมหรือรสเปรี้ยวไหลย้อนขึ้น หลาย ๆ ท่านคงเคยใช้ยาแผนปัจจุบันเพื่อบรรเทาอาการกันมาบ้าง แต่เพื่อลดผลข้างเคียงที่เกิดจากการใช้ยา วันนี้เรามีเคล็ดลับและตัวช่วยดี ๆ เกี่ยวกับสมุนไพรไทยใกล้ตัวเราที่ช่วยรักษากรดไหลย้อนได้ดีมาฝากกันค่ะ
กล้วยดิบ
หลายคนคงไม่เชื่อว่า…กล้วยใกล้ตัวเรานี่ล่ะที่จะเป็นตัวช่วยรักษาและบรรเทาอาการของโรคกรดไหลย้อนชั้นดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกล้วยดิบ เนื่องจากกล้วยดิบประกอบไปด้วยสารสำคัญที่มีชื่อว่า “สารแทนนิน” ซึ่งเป็นสารที่ทำให้กล้วยดิบมีรสฝาดและเฝื่อนลิ้นนั่นเอง ตั้งแต่ในสมัยโบราณภูมิปัญญาดั้งเดิมของไทยมีการนำกล้วยดิบมาใช้รักษาโรคแผลกระเพาะอาหาร เนื่องจากมีฤทธิ์ฝาดสมานช่วยเคลือบกระเพาะอาหาร สมานบาดแผล และช่วยลดอักเสบได้ จึงเป็นตัวยาจากธรรมชาติชั้นดีที่ไม่มีพิษมีภัย นอกจากการใช้กล้วยดิบในการรักษาโรคกระเพาะอาหารได้แล้ว กล้วยยังเป็นตัวเลือกที่ดีในการใช้รักษาโรคกรดไหลย้อนร่วมกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพราะนอกเหนือจากฤทธิ์ในการเคลือบกระเพาะอาหาร สมานบาดแผล และช่วยลดอักเสบแล้ว กล้วยดิบยังมีฤทธิ์เป็นด่างจึงช่วยลดความเป็นกรดเกินของทางเดินอาหาร ช่วยเพิ่มไฟเบอร์หรือแหล่งกากใยอาหาร เนื่องจากปัจจุบันพบว่าปัญหาโรคกรดไหลย้อนมีความสัมพันธ์กับระบบย่อยอาหารที่ไม่สมดุลด้วย ดังนั้น การรับประทานกล้วยจะสามารถช่วยปรับสมดุลของระบบย่อยและทางเดินอาหารให้ดีขึ้นอีกทางหนึ่ง ในด้านคุณประโยชน์ของสารอาหารพบว่ากล้วยเป็นแหล่งของไฟเบอร์ วิตามินบี 6 และโพแทสเซียมช่วยในการทำงานของหัวใจและเพิ่มความแข็งแรงของกระดูกได้อีกด้วย
ขมิ้นชัน
ในเหง้าขมิ้นชันนั้นมีสารสำคัญ 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มน้ำมันหอมระเหย (Volatile oil) และกลุ่มสารเคอร์คูมินอยด์ (curcuminoids) ที่มีสีเหลืองส้ม โดยสารทั้ง 2 กลุ่มจะออกฤทธิ์เสริมกันในการรักษาอาการกรดไหลย้อน โดยสารกลุ่มเคอร์มินอยด์ถือว่าเป็นสารหลักในการออกฤทธิ์ ประกอบด้วยสารหลัก 3 ตัว ได้แก่ เคอร์คูมิน (Curcumin) ดีเม็ทท็อกซี่เคอร์คูมิน (Demethoxycurcumin) และบิสดีเม็ทท็อกซี่เคอร์คูมิน (Bisdemethoxycurcumin) การศึกษาวิจัยในต่างประเทศ พบว่าสารเคอร์คูมินอยด์ในขมิ้นชันมีฤทธิ์ทางยาที่เป็นประโยชน์หลากหลาย เช่น ฤทธิ์ในการลดการอักเสบเรื้อรัง ออกฤทธิ์กระตุ้นการหลั่งเมือกมาเคลือบที่กระเพาะอาหาร ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดอาการแสบร้อน จุกเสียด แน่นท้อง ท้องอืด ลดอาการอักเสบ และมีฤทธิ์สมานแผล (Wound healing) ในทางเดินอาหาร อาการอักเสบของทางเดินอาหาร และอาการโรคกรดไหลย้อนจึงดีขึ้นอย่างรวดเร็ว สำหรับฤทธิ์ในการลดการอักเสบนั้น สารเคอร์คูมินอยด์ออกฤทธิ์โดยการไปยับยั้งการหลั่งสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบ เช่น สารไซโตไคน์ เคอร์คูมินอยด์จึงสามารถนำมาใช้ต้านการอักเสบของร่างกายได้เป็นอย่างดี
การดูแลรักษาและปรับสมดุลร่างกายด้วยสมุนไพรไทยนับว่าเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านคู่คนไทยมาอย่างช้านาน การรับประทาน “ผงกล้วยน้ำว้าดิบผสมขมิ้นออร์แกนิค ตราน้ำว้า” ที่ประกอบด้วยสมุนไพรส่วนผสมของกล้วยและขมิ้นชันแท้จากธรรมชาติเสริมจึงมีส่วนช่วยลดอาการอักเสบของทางเดินอาหาร ช่วยบรรเทาอาการของโรคกรดไหลย้อนอย่างได้ผล
นอกเหนือจากการทานสมุนไพรช่วยแล้ว โรคกรดไหลย้อนสามารถป้องกันและรักษาให้หายเร็วขึ้นได้หากผู้ป่วยปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตร่วมด้วย เช่น งดการนอนทันทีหลังรับประทานอาหารอิ่ม ควรนั่งหรือเดินเล่นอย่างน้อย 1 ชั่วโมง งดทานอาหารเผ็ดร้อน งดคาเฟอีน ลดความเครียด ทำจิตใจให้แจ่มใส และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
….ปวดท้องจากกรดไหลย้อน อย่างลืมนึกถึง “ผงกล้วยน้ำว้าดิบผสมขมิ้นออร์แกนิค ตราน้ำว้า” นะคะ
สนใจ ผงกล้วยน้ำว้าดิบออร์แกนิค ตราน้ำว้า เพิ่มเติม กดที่รูปได้เลยค่าาา
เอกสารอ้างอิง
- https://www.aarp.org/health/conditions-treatments/info-2017/foods-help-acid-reflux-fd.html#:~:text=1.,can%20help%20ward%20off%20indigestion
- https://www.everydayhealth.com/gerd/pictures-of-low-acid-foods-to-add-to-your-reflux-diet/
- https://www.hopkinsmedicine.org/health/wellness-and-prevention/gerd-diet-foods-that-help-with-acid-reflux-heartburn