ผงขมิ้นออร์แกนิคเสริมสุขภาพ | ประโยชน์จากขมิ้นชันตราน้ำว้า

2024-09-20T12:10:46+07:00

"ขมิ้นชัน" (Turmeric) เป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์หลากหลายและถูกใช้ในชีวิตประจำวันของคนไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นในด้านการดูแลสุขภาพ ขมิ้นชันถูกนำมาใช้ทั้งในอาหารและการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ผงขมิ้นชันออร์แกนิคตรา “น้ำว้า” ผลิตจากขมิ้นที่ปลูกโดยวิธีธรรมชาติ ปลอดสารเคมี เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์จากขมิ้นชันอย่างเต็มที่ คุณสมบัติเด่นของขมิ้นชันออร์แกนิค ขมิ้นชันมีส่วนประกอบหลักคือ เหง้าขมิ้น (Curcuma longa Linn.) ซึ่งอุดมไปด้วยสารเคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoids) และน้ำมันหอมระเหย (Volatile Oil) สารเหล่านี้มีคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพหลายประการ เช่น ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบย่อยอาหาร ทำให้รู้สึกสบายท้อง และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อร่างกาย ประโยชน์ของขมิ้นชัน เสริมการทำงานของระบบย่อยอาหาร ขมิ้นชันมีคุณสมบัติที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารและการขับถ่าย ทำให้รู้สึกสบายท้องและช่วยดูแลสุขภาพลำไส้ได้ดี มีสารต้านอนุมูลอิสระ สารเคอร์คูมินอยด์ในขมิ้นชันเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายจากการถูกทำลาย ช่วยส่งเสริมสุขภาพโดยรวม

ผงขมิ้นออร์แกนิคเสริมสุขภาพ | ประโยชน์จากขมิ้นชันตราน้ำว้า2024-09-20T12:10:46+07:00

4 ประโยชน์ของขิง เพื่อสุขภาพที่ดี

2021-03-02T12:27:46+07:00

ขิง เป็นสมุนไพรเพื่อสุขภาพพื้นบ้านที่คนไทยใช้กันมาช้านานตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ไม่ว่าจะใช้ทำอาหาร ใช้เป็นส่วนประกอบของยาสมุนไพร หรือนำมาทำเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ด้านประโยชน์ต่อสุขภาพในสมัยก่อนมีการใช้ขิงรักษาโรคหลากหลายชนิดมาอย่างยาวนาน เช่น โรคเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร การมีแก๊สในกระเพาะ อาหารไม่ย่อย อาการท้องเสีย อาการเมารถเมาเรือ คลื่นไส้ ไม่อยากอาหาร ขิงจึงเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องดื่มที่จะช่วยในเรื่องปัญหาระบบทางเดินอาหารต่าง ๆ ว่าแล้วเราไปดูสรรพคุณดี ๆ ของขิงกันดีกว่าค่ะ ◼ ขิงช่วยย่อยอาหาร แก้อาการท้องอืด ปัจจุบันเราทราบว่าในขิงมีสารประกอบในกลุ่มฟีโนลิกหลายชนิด ซึ่งจะออกฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร โดยไปเพิ่มการบีบตัวของทางเดินอาหารส่วนต่าง ๆ  อย่างอ่อน ได้แก่ หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้ ส่งผลให้อาหารที่อยู่ในทางเดินอาหารถูกผลักดันไปข้างหน้าและเคลื่อนตัวไปได้รวดเร็วขึ้น จึงทำให้อาหารถูกย่อยได้รวดเร็วขึ้น อาการท้องอืด แน่นท้อง

4 ประโยชน์ของขิง เพื่อสุขภาพที่ดี2021-03-02T12:27:46+07:00

สรรพคุณชาขิงขมิ้นพริกไทยดำออร์แกนิค “จินเจอร์ริก”

2021-04-22T10:26:07+07:00

"ระบบทางเดินอาหาร" เป็นส่วนหนึ่งของอวัยวะในร่างกาย มีหน้าที่ในการย่อยอาหาร การดูดซึม และการขับถ่าย จากงานวิจัยพบว่าถ้าเรามีระบบการย่อยอาหารที่ดี สุขภาพโดยรวมของร่างกายก็จะดีตามไปด้วยดังนั้น หากไม่อยากทุกข์ทรมานจากการป่วยเป็นโรคของระบบทางเดินอาหารแล้วละก็ ควรจะต้องดูแลเรื่องพฤติกรรมการรับประทานอาหารด้วยเช่นกัน ขิง ยาอายุวัฒนะสำหรับทางเดินอาหารและข้อ ขิงถือได้ว่าเป็นทั้งอาหาร เครื่องปรุงรส และยาสมุนไพรที่ใช้บ่อย ควรมีไว้ประจำครัวเรือน โดยพบว่าขิงมีสารสำคัญที่มีชื่อว่า “gingerol (จิงเจอร์รอล)” มีสรรพคุณเด่นด้านการรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ช่วยขับลม และปรับสมดุลของอวัยวะต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบย่อยอาหาร ดังนี้ ช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด แน่นท้อง เนื่องจากน้ำมันหอมระเหยที่มีอยู่ในขิงช่วยกระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้อย่างอ่อน และยังช่วยกระตุ้นให้กระเพาะเกิดการย่อยอาหารอีกด้วย ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น โดยได้มีการวิจัยจากการทดลองในสัตว์ทดลอง พบว่าขิงช่วยกระตุ้นการสร้างและหลั่งเมือก (mucin) เพื่อปกป้องกระเพาะอาหารได้

สรรพคุณชาขิงขมิ้นพริกไทยดำออร์แกนิค “จินเจอร์ริก”2021-04-22T10:26:07+07:00

สาเหตุโรคลำไส้รั่วและแนวทางป้องกัน ดูแลรักษา

2020-11-25T22:15:01+07:00

โรคลำไส้รั่วอาจเป็นโรคที่หลายคนเคยได้ยิน แต่ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วอาการเป็นอย่างไร  ลำไส้เรารั่วได้จริง ๆ หรือ วันนี้ทางแอดมินมีคำตอบมาฝากกันค่ะ โรคลำไส้รั่วคืออะไร           ในคนปกติเซลล์เยื่อบุผนังลำไส้จะเรียงตัวชิดติดกันเป็นระเบียบ เรียกว่า “tight junctions” เพื่อทำหน้าที่คัดกรองสารเข้า-ออก และควบคุมสารพิษหรือเชื้อโรคที่จะเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง แต่เมื่อเซลล์เยื่อบุผนังลำไส้เกิดความผิดปกติ มีการอักเสบ เซลล์จึงไม่สามารถเรียงตัวชิดกันได้ ทำให้สารพิษหรือสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ สามารถผ่านเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างอิสระ เรียกความผิดปกตินี้ว่า ภาวะลำไส้รั่ว" หรือ "Leaky Gut Syndrome"  ซึ่งเมื่อสารดังกล่าวเข้าสู่กระแสเลือดแล้วก็เปรียบเหมือนสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย ร่างกายจะปฏิเสธสิ่งแปลกปลอมนั้น ๆ ด้วยการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ทำงานมากขึ้นเพื่อมาต่อต้านสิ่งแปลกปลอมนั้น ผลที่ตามมา คือ อาการไม่พึงประสงค์ต่าง

สาเหตุโรคลำไส้รั่วและแนวทางป้องกัน ดูแลรักษา2020-11-25T22:15:01+07:00

2 สมุนไพรใกล้ตัว…ช่วยรักษา กรดไหลย้อน

2020-10-30T19:00:31+07:00

ในช่วงปีที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อนเพิ่มมากขึ้นถึงร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับเมื่อ 5 ปีก่อน และนับวันจะยิ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนหนึ่งเกิดจากการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ พฤติกรรมที่เร่งรีบ ความเครียดเรื่องงาน ปัญหาเรื่องเงินทอง รวมถึงชีวิตครอบครัว ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้โรคกรดไหลย้อนทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น โรคกรดไหลย้อนเป็นภาวะที่เกิดจากความผิดปกติของน้ำย่อยจากกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไปในหลอดอาหาร ส่วนใหญ่เกิดจากภาวะหูรูดระหว่างหลอดอาหารและกระเพาะอาหารหย่อน ทำให้กรดสามารถไหลย้อนกลับขึ้นมาได้ จึงเกิดอาการจุกแน่นหน้าอกคล้ายกับอาหารไม่ย่อย แสบร้อนบริเวณหน้าอก เรอบ่อย มีน้ำรสขมหรือรสเปรี้ยวไหลย้อนขึ้น หลาย ๆ ท่านคงเคยใช้ยาแผนปัจจุบันเพื่อบรรเทาอาการกันมาบ้าง แต่เพื่อลดผลข้างเคียงที่เกิดจากการใช้ยา วันนี้เรามีเคล็ดลับและตัวช่วยดี ๆ เกี่ยวกับสมุนไพรไทยใกล้ตัวเราที่ช่วยรักษากรดไหลย้อนได้ดีมาฝากกันค่ะ กล้วยดิบ           หลายคนคงไม่เชื่อว่า...กล้วยใกล้ตัวเรานี่ล่ะที่จะเป็นตัวช่วยรักษาและบรรเทาอาการของโรคกรดไหลย้อนชั้นดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกล้วยดิบ เนื่องจากกล้วยดิบประกอบไปด้วยสารสำคัญที่มีชื่อว่า “สารแทนนิน” ซึ่งเป็นสารที่ทำให้กล้วยดิบมีรสฝาดและเฝื่อนลิ้นนั่นเอง

2 สมุนไพรใกล้ตัว…ช่วยรักษา กรดไหลย้อน2020-10-30T19:00:31+07:00

รู้ทัน! อาการกรดไหลย้อน โรคที่ใคร ๆ ก็เป็นได้

2021-02-12T12:07:49+07:00

ในปัจจุบันเราจะพบเห็นคนใกล้ตัวเป็น “โรคกรดไหลย้อน” กันมากขึ้น ซึ่งจัดว่าเป็นโรคยอดฮิต ยุคใหม่ที่ใคร ๆ ก็เป็นได้ โดยสาเหตุหลักมักมาจากพฤติกรรมการกินอาหารที่ไม่ถูกต้องและการใช้ชีวิตที่เร่งรีบในสภาพสังคมปัจจุบัน โรคกรดไหลย้อน คือ ภาวะที่มีกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาในหลอดอาหารจนทำให้หลอดอาหารเกิดการอักเสบ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน หรือแม้แต่ไม่ได้รับประทานอาหารก็ตาม อาการของกรดไหลย้อนเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับอวัยวะที่ถูกระคายเคืองโดยกรด เช่น อาการทางคอหอยและหลอดอาหาร อาการปวดแสบร้อนบริเวณหน้าอก และลิ้นปี่ บางครั้งอาจร้าวไปที่บริเวณคอได้ (พบน้อย) รู้สึกคล้ายมีก้อนอยู่ในคอ หรือแน่นคอ กลืนลำบาก กลืนเจ็บ หรือกลืนติดๆ ขัดๆ คล้ายสะดุดสิ่งแปลกปลอมในคอ เจ็บคอ แสบคอหรือปาก หรือแสบลิ้นเรื้อรัง โดยเฉพาะในตอนเช้า รู้สึกเหมือนมีรสขมของน้ำดี หรือรสเปรี้ยวของกรดในคอหรือปาก (bile

รู้ทัน! อาการกรดไหลย้อน โรคที่ใคร ๆ ก็เป็นได้2021-02-12T12:07:49+07:00

ยายับยั้งการหลั่งกรดโอมีพราโซล (Omeprazole)

2021-02-12T11:59:05+07:00

สำหรับหลาย ๆ ท่านที่มีอาการ อาหารไม่ย่อย หรือ Dyspepsia น่าจะเคยได้ยินหรือมีโอกาสได้ใช้ ยาโอมีพราโซล (Omeprazole) หรือ ยามิราซิด (Miracid®) ซึ่งออกฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร จึงช่วยลดอาการแสบกระเพาะอาหาร อาการปวดท้องส่วนบน ท้องอืด จุกเสียดแน่นท้องบริเวณลิ้นปี่ รู้สึกอึดอัดไม่สบายตัว คลื่นไส้ อาเจียน อาการแสบร้อนกลางอกหลังรับประทานอาหารเนื่องจากกรดเกิน โดยอาการที่เกิดขึ้นสามารถรักษาให้หายได้ด้วยการรับประทานยา ร่วมกับการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ยา Omeprazole เป็นยาช่วยยับยั้งการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารในกลุ่มยับยั้งโปรตอน ปั๊ม (Proton Pump Inhibitors: PPIs) ออกฤทธิ์โดยการขัดขวางการหลั่งกรดในขั้นตอนสุดท้าย โดยตัวยาจะเข้ายับยั้งเอนไซม์ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร ตัวอย่างยาในกลุ่มนี้ ได้แก่ Miracid®,

ยายับยั้งการหลั่งกรดโอมีพราโซล (Omeprazole)2021-02-12T11:59:05+07:00

กรดไหลย้อน เป็นง่าย รักษายาก แต่ป้องกันได้ แค่ทำตามนี้‼

2020-06-09T17:14:49+07:00

โรคกรดไหลย้อน (gastroesophageal reflux disease: GERD) พบได้ตั้งแต่เด็กทารกไปจนถึงผู้ใหญ่ เป็นภาวะที่น้ำย่อยจากกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไปในหลอดอาหาร อาจทำให้เกิดอาการแสบร้อนบริเวณหน้าอกหรืออาการขย้อนจนรบกวนชีวิตประจำวันได้ ซึ่งสาเหตุสำคัญหนึ่งมาจากพฤติกรรมการกินอาหารที่ไม่ถูกต้องและการใช้ชีวิตที่เร่งรีบในสภาพสังคมปัจจุบัน สิ่งสำคัญเเละง่ายที่สุดในการป้องกันเเละบรรเทาโรคกรดไหลย้อน คือ การเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของเราเอง ซึ่งการปรับพฤติกรรมแบบง่ายๆ มีอะไรบ้าง เรามาลองดูกันค่ะ ควรแบ่งมื้ออาหารเป็นมื้อเล็กๆ 5 หรือ 6 มื้อต่อวันเพื่อป้องกันไม่ให้กระเพาะอาหารสร้างกรดออกมามากเกินไปเเละไม่ทำให้กระเพาะทำงานหนักเกินไป ควรทานอาหารเป็นคำเล็กๆ เเละค่อยๆ เคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืนเพื่อที่จะได้ใช้เวลาในการย่อยอาหารน้อยลงเเละย่อยง่ายขึ้น ควรทานอาหารที่มีไขมันต่ำ, ไฟเบอร์สูง, เนื้อสัตว์สีขาวไม่ติดมัน เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา นมไขมันต่ำ ข้าวโอ๊ต และผงกล้วยดิบ เป็นต้น หลังทานอาหารเสร็จแล้ว ควรรออย่างน้อย

กรดไหลย้อน เป็นง่าย รักษายาก แต่ป้องกันได้ แค่ทำตามนี้‼2020-06-09T17:14:49+07:00

โรคกรดไหลย้อนเกิดได้อย่างไร❓

2019-08-10T01:42:25+07:00

ระหว่างหลอดอาหารและกระเพาะอาหาร จะมีกล้ามเนื้อทำหน้าที่เป็นหูรูด (Sphincter) ช่วยบีบบังคับไม่ให้อาหารและกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับเข้าไปในหลอดอาหาร ทั้งนี้เพราะกรดจะทำลายเยื่อบุหลอดอาหาร เเละเนื้อเยื่อหลอดอาหารไม่สามารถทนต่อกรดได้ ดังนั้น เมื่อเกิดภาวะที่ทำให้หูรูดนี้หย่อนยาน หรือปิดไม่สนิท จึงส่งผลให้กรดและอาหารที่กำลังย่อยในกระเพาะอาหาร ไหลทวนย้อนกลับเข้าสู่หลอดอาหาร ภาวะที่ทำให้เกิดการหย่อนยาน และ/หรือการปิดไม่สนิทของหูรูดที่สำคัญ มีดังนี้ 1️⃣ กระเพาะอาหารบีบตัวลดน้อยลง จากสาเหตุต่าง ๆ เช่น จากสูงอายุขึ้น (อายุ 40 ปีขึ้นไป เซลล์ต่างๆทุกชนิดของร่างกายรวมทั้งของหูรูดและของกระเพาะอาหารจะค่อยๆเสื่อมลงๆ) จากการอักเสบของกระเพาะอาหาร หรือของเส้นประสาทกระเพาะอาหาร จากผลข้างเคียงของยาบางชนิด เช่น ยาคลายเครียด ยาลดกรด ยาบรรเทาปวดกล้ามเนื้อ จากสารบางอย่างที่ทำให้กล้ามเนื้อหย่อนยาน เช่น สุรา/เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งจากการบีบตัวลดลง จึงส่งผลให้เกิดการคั่งของอาหารและกรด

โรคกรดไหลย้อนเกิดได้อย่างไร❓2019-08-10T01:42:25+07:00

โรคกรดไหลย้อนมีสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงจากอะไร❓❓❓

2019-08-09T01:15:12+07:00

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของโรคกรดไหลย้อน ได้แก่ 1️⃣ อายุ ดังกล่าวแล้ว อายุยิ่งสูงขึ้น โอกาสเกิดโรคนี้ยิ่งสูงขึ้น 2️⃣ การกินอาหารแต่ละมื้อในปริมาณสูง โดยเฉพาะกินมื้อเย็นก่อนนอน เพราะปริมาณอาหารยังค้างอยู่ในกระเพาะอาหาร และการนอนราบยังเพิ่มแรงดันในกระเพาะอาหาร อาหารและกรดจึงไหลย้อนกลับเข้าหลอดอาหารได้ง่าย 3️⃣ การนอนราบหลังกินอาหาร เพราะจะเกิดแรงดันในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจากอาหาร/เครื่องดื่ม 4️⃣ ประเภทอาหาร และเครื่องดื่ม ได้แก่       ❌ ประเภทอาหารที่ค้างอยู่ในกระเพาะอาหารได้นาน เช่น ไขมัน มันฝรั่งทอด มันเผาหรือมันต้ม อาหารทอด อาหารผัดน้ำมันมากๆ       ❌ อาหารและเครื่องดื่มที่มีสารช่วยการคลายตัวของกล้ามเนื้อ เพราะจะลดการบีบตัวของกระเพาะอาหาร เช่น ช็อกโกแลต สุรา/แอลกอฮอล์  

โรคกรดไหลย้อนมีสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงจากอะไร❓❓❓2019-08-09T01:15:12+07:00
Go to Top