สรรพคุณเครื่องดื่มกล้วยน้ำว้าดิบผสมใบกัญชงออร์แกนิค ชนิดผง

2022-10-07T10:26:48+07:00

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “เครื่องดื่มกล้วยน้ำว้าดิบผสมใบกัญชงออร์แกนิค ชนิดผง” โดย “น้ำว้า” ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด ที่ทำการผสาน 2 คุณประโยชน์จากกล้วยน้ำว้าดิบและใบกัญชง ผลิตภายใต้มาตรฐานระดับสากลเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีคุณประโยชน์จากแหล่งวัตถุดิบออร์แกนิคธรรมชาติแท้ 100% เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหานอนไม่หลับ อ่อนเพลีย วิตกกังวล มีปัญหาระบบทางเดินอาหาร ฯลฯ กล้วย จัดได้ว่าเป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง จนได้ชื่อว่าเป็น “ราชินีแห่งผลไม้ต้านอนุมูลอิสระ” ช่วยต้านอนุมูลอิสระในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยชะลอวัยและลดความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ ได้ กล้วยประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระประเภทเบต้าแคโรทีนและโดปามีน จึงช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและโรคที่เกี่ยวข้องกับความเสื่อมต่าง ๆ เช่น การแก่ก่อนวัย โรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน เป็นต้น นอกจากนี้ คาเทชินที่พบในกล้วยเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงของโรคหลายชนิด เช่น

สรรพคุณเครื่องดื่มกล้วยน้ำว้าดิบผสมใบกัญชงออร์แกนิค ชนิดผง2022-10-07T10:26:48+07:00

รู้หรือไม่?…กรดไหลย้อนทารกก็เป็นได้

2021-10-15T09:40:53+07:00

หลาย ๆ คนอาจไม่ทราบว่าโรคกรดไหลย้อนสามารถเกิดขึ้นกับทารกได้ พบว่าทารก 100 คน เป็นกรดไหลย้อนได้มากถึง 25 คน หรือสูงถึง 25% ของทารกทั้งหมด  แต่หลังจากอายุ 10 เดือนไปแล้ว โอกาสของการเป็นกรดไหลย้อนจะลดลง กรดไหลย้อนในทารกเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่พ่อแม่ควรให้ความสนใจเพื่อใช้ในการสังเกตอาการของลูก ๆ และรักษาได้อย่างทันท่วงที เพื่อหลีกเลี่ยงผลเสียที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว   อาการกรดไหลย้อนในทารก อาการกรดไหลย้อนในทารกจะทำให้ทารกมีอาการไม่สบายตัว งอแง คลื่นไส้ กระสับกระส่ายทุกครั้งที่กินนม มีการแหวะนมบ่อย ๆ และอาเจียนนมออกมาหลังจากกินนม หรือเกิดอาการสะอึก และถ้าอาเจียนออกมาแล้วแต่ไหลกลับไปไม่ถูกจังหวะ ลูกอาจมีอาการไอร่วมด้วย น้ำหนักไม่ค่อยขึ้นในช่วง 1 เดือนที่มีอาการ

รู้หรือไม่?…กรดไหลย้อนทารกก็เป็นได้2021-10-15T09:40:53+07:00

ประโยชน์ของผงกระชายขาว

2021-10-01T11:42:11+07:00

กระชายขาว หรือ กระชาย (Boesenbergia rotunda) บางแห่งอาจรู้จักกันในชื่อกระชายเหลือง กระชายขาวเป็นสายพันธุ์ที่มีการใช้มาอย่างยาวนาน โดยนิยมนำมาประกอบอาหารเพื่อให้กลิ่นของอาหารโดดเด่นชวนรับประทาน พร้อมยังบำรุงสุขภาพไปด้วยในตัว ซึ่งประโยชน์ของกระชายขาวจะแตกต่างจากกระชายดำ เนื่องจากกระชายดำจะนิยมนำมาใช้เพื่อเสริมสรรถภาพทางเพศเป็นหลัก โดยสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ในกระชายขาว ได้แก่ แพนดูราทิน (Panduratin) พินอสทรอบิน (Pinostrobin) ไบเซนเบอร์จิน (Boesenbergin) และน้ำมันระเหยง่ายชนิดต่าง ๆ สารสำคัญเหล่านี้จะช่วยให้สุขภาพเราดีขึ้นได้อย่างไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ กระชายขาว ก็คือ "โสมเมืองไทย" กระชายเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยานานับประการ จนได้ชื่อในวงการแพทย์แผนไทยว่าเป็น "โสมไทย" เนื่องจากกระชายกับโสมมีความคล้ายคลึงกันหลายอย่าง เช่น สรรพคุณที่ช่วยในการบำรุงกำลังและเสริมสมรรถภาพทางเพศ ช่วยปรับสมดุลร่างกาย และช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่ามีกำลังวังชา นอกจากนี้

ประโยชน์ของผงกระชายขาว2021-10-01T11:42:11+07:00

โรคกรดไหลย้อนขณะตั้งครรภ์

2021-03-15T12:18:10+07:00

กรดไหลย้อนเป็นอาการแสบร้อนกลางอกที่เกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณหลอดอาหารคลายตัวผิดปกติ ซึ่งพบได้บ่อยมากขึ้นในหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากหญิงตั้งครรภ์มีการเปลี่ยนแปลงของ ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (progesterone) โดยมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นจากระดับปกติอย่างมากเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลง และทำให้กล้ามเนื้อหูรูดบริเวณปลายหลอดอาหารที่อยู่ระหว่างกระเพาะคลายตัวมากกว่าปกติ นอกจากนี้ การเจริญเติบโตของทารกในครรภ์จะทำให้มดลูกขยายขนาดใหญ่ขึ้น และไปเบียดกระเพาะอาหารให้อยู่ในตำแหน่งที่สูงขึ้น เมื่อรับประทานอาหารมาก ๆ หรือเอนตัวลงนอนหลังรับประทานอาหารเสร็จไม่นาน น้ำย่อยจากกระเพาะอาหารซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรดจึงไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหาร ทำให้รู้สึกเจ็บและแสบร้อนบริเวณหน้าอกตามมา อาการที่บอกว่า คุณแม่เริ่มมีอาการของโรคกรดไหลย้อนระหว่างตั้งครรภ์ ได้แก่ มีอาการแสบร้อนบริเวณกลางหน้าอก เรอบ่อย เรอเปรี้ยว ระคายคอ หรือเสียงแหบ คลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งอาการดังกล่าวมักส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของคุณแม่ และจะยิ่งซ้ำเติมอาการแพ้ท้องที่ทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง และไม่สบายท้องอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม คุณแม่หลายคนไม่ต้องกังวลไปว่ากรดเกินส่วนนี้จะส่งผลกระทบกับทารกในครรภ์ เพราะภาวะกรดไหลย้อนขณะตั้งครรภ์นั้นไม่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์แต่อย่างใด เพียงแต่จะเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวันของตัวคุณแม่เอง โดยในรายที่มีอาการรุนแรงอาจทำให้เกิดภาวะหลอดอาหารอักเสบได้ ซึ่งอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นเองหลังจากคลอดบุตรแล้ว

โรคกรดไหลย้อนขณะตั้งครรภ์2021-03-15T12:18:10+07:00

2 สมุนไพรตัวช่วยลดโรคเบาหวาน และโรคกระเพาะอาหาร

2021-01-10T13:25:07+07:00

โรคเบาหวาน เป็นโรคที่หลายคนอาจจะมองว่าไม่ร้ายแรง แต่แท้จริงแล้วโรคเบาหวานสามารถทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจทำให้พิการตามมาได้ เช่น โรคหัวใจผิดปกติ ตามัว เห็นภาพไม่ชัดจนถึงขั้นตาบอด มีอาการชาปลายมือและปลายเท้า แผลหายยาก ติดเชื้อที่บาดแผลเรื้อรัง บางรายรุนแรงถึงขั้นต้องตัดขาทิ้ง เป็นต้น เป็นภาวะที่เซลล์ร่างกายมีความผิดปกติในการเปลี่ยนน้ำตาลในเลือดให้เป็นพลังงาน เนื่องจากความผิดปกติของการหลั่งฮอร์โมนอินซูลินซึ่งใช้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด หรือภาวะที่ร่างกายไม่ตอบสนองต่ออินซูลินที่หลั่งออกมา เมื่อน้ำตาลไม่ถูกนำไปใช้จึงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นกว่าระดับปกติ จึงเกิดเป็นโรคเบาหวาน เป็นโรคเรื้อรังเกี่ยวกับทางเดินอาหารที่คนส่วนใหญ่เป็นกันเยอะ และทำให้ทุกข์ทรมานกับอาการปวดท้องอยู่เนือง ๆ เนื่องจากแผลในกระเพาะอาหาร (Peptic Ulcer) ที่เกิดการอักเสบ อาการที่พบได้บ่อย เช่น ปวดท้อง จุกเสียด แน่นหน้าอก เรอเปรี้ยว โดยอาการปวดจะสัมพันธ์กับมื้ออาหาร คือ อาจปวดก่อน

2 สมุนไพรตัวช่วยลดโรคเบาหวาน และโรคกระเพาะอาหาร2021-01-10T13:25:07+07:00

อาหารที่ควรทานและควรหลีกเลี่ยงสำหรับ โรคกรดไหลย้อน

2021-11-11T11:21:26+07:00

อาการของโรคกรดไหลย้อนมักจะกำเริบมากขึ้นหลังจากที่กินอาหารมื้อหนัก ๆ หรือกินอาหารบางชนิดที่มีฤทธิ์กระตุ้นให้กรดหลั่งออกมามากขึ้น โรคกรดไหลย้อนเป็นโรคที่มักมีอาการเป็น ๆ หาย ๆ หากผู้ป่วยยังคงมีพฤติกรรมการรับประทานอาหารแบบเดิม ๆ ที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะการรับประทานอาหารที่ส่งผลให้อาการกรดไหลย้อนเพิ่มสูงขึ้น อาหารที่ผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อน ควรรับประทาน ได้แก่ อาหารไขมันต่ำ เช่น เนื้อไม่ติดมัน เนื้อปลา ไก่ ไข่ขาว นมไขมันต่ำ หรือน้ำเต้าหู้ เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีสำหรับผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อน ไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันงา อะโวคาโด น้ำมันดอกทานตะวัน ลดการบริโภคไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ โดยแนะนำให้รับประทานไขมันไม่อิ่มตัวที่ดีต่อสุขภาพเหล่านี้แทน อาหารไฟเบอร์สูง เช่น ข้าวซ้อมมือ ข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี

อาหารที่ควรทานและควรหลีกเลี่ยงสำหรับ โรคกรดไหลย้อน2021-11-11T11:21:26+07:00

สาเหตุโรคกระเพาะอาหาร และการดูแลรักษา

2020-06-29T11:40:33+07:00

โรคกระเพาะอาหาร เป็นโรคเรื้อรังเกี่ยวกับทางเดินอาหารโรคหนึ่งที่คนส่วนใหญ่เป็นกันเยอะ และมักทุกข์ทรมานกับอาการปวดท้องอยู่เนือง ๆ บางท่านอาจไม่แน่ใจว่าตนเองประสบปัญหาเรื่องโรคกระเพาะอยู่หรือไม่ และมีวิธีดูแลตนเองอย่างไร วันนี้เราจะมาหาคำตอบกันค่ะ อาการของโรค อาการปวดท้องที่เป็นตัวบอกว่าเป็น “โรคกระเพาะอาหาร” คือ ผู้ป่วยจะมีอาการปวดเสียด ตื้อ จุกแน่น ส่วนใหญ่มักเกิดบริเวณใต้ลิ้นปี่ เหนือสะดือ ปวดใต้ชายโครงซ้าย ตำแหน่งเกิดขึ้นได้บ่อยจะอยู่ในกระเพาะส่วนปลาย ระหว่างรอยต่อของกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น และอาการมักเป็น ๆ หาย ๆ โดยอาการปวดจะสัมพันธ์กับมื้ออาหาร โดยอาจปวดก่อน ระหว่าง หรือหลังรับประทานอาหารก็ได้ และมักมีอาการปวดท้องตอนท้องว่าง จากการที่กระเพาะอาหารเกิดการระคายเคืองเนื่องจากสาเหตุต่าง ๆ เช่นการมีกรดหลั่ง เป็นต้น สาเหตุของโรค โรคกระเพาะอาหารเป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบหรือเกิดการระคายเคืองบริเวณเยื่อบุภายในกระเพาะอาหาร ส่วนใหญ่เกิดจากการรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา การรับประทานอาหารรสเผ็ดร้อน

สาเหตุโรคกระเพาะอาหาร และการดูแลรักษา2020-06-29T11:40:33+07:00

กล้วยน้ำว้า: ผลไม้เพิ่มสารแห่งความสุข

2020-02-14T23:14:15+07:00

สถานการณ์ปัจจุบันทำให้คนเรามี ภาวะเครียด วิตกกังวล จนถึงขั้นทำให้เป็นโรคซึมเศร้าเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจากปัญหาเรื่องงาน การเงิน หรือปัญหาครอบครัว ปัจจัยทางด้านลบจากอารมณ์ส่งผลต่ออวัยวะภายใน รวมถึงสมดุลของฮอร์โมนหรือสารสื่อประสาทต่าง ๆ ที่ควบคุมให้การทำงานของร่างกายเป็นปกติ ในช่วงนี้มีข่าวหลายชีวิตที่จากไปด้วยโรคซึมเศร้า พบว่าทั่วประเทศมีผู้ป่วยโรคนี้ประมาณ 1.4 ล้านคนซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่น่าเป็นห่วง โรคซึมเศร้าสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย

กล้วยน้ำว้า: ผลไม้เพิ่มสารแห่งความสุข2020-02-14T23:14:15+07:00

กล้วยน้ำว้าดิบ วิถีไทย

2020-02-04T15:34:24+07:00

กล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้ที่มีคุณประโยชน์และใกล้ชิดคนไทยมากที่สุดชนิดหนึ่ง ภูมิปัญญาคนไทยในสมัยโบราณนั้นทราบกันมาช้านานแล้วว่ากล้วยน้ำว้ามีคุณประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งฤทธิ์ในการรักษาโรคกระเพาะอาหาร แม้ว่าคนไทยในสมัยโบราณจะไม่ทราบว่าในกล้วยนั้นมีสารสำคัญอะไรที่ออกฤทธิ์ แต่จากการรับประทานกล้วยน้ำว้าแล้วช่วยลดอาการปวดท้องและรักษาโรคกระเพาะอาหารได้อย่างชะงัด จึงทำให้ภูมิปัญญาดังกล่าวได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาจนถึงปัจจุบัน

กล้วยน้ำว้าดิบ วิถีไทย2020-02-04T15:34:24+07:00

Resistant Starch 2 (RS2) ในแป้งกล้วยดิบ

2021-02-12T11:47:32+07:00

แป้งเป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่งที่สามารถถูกย่อยสลายด้วยเอนไซม์ และได้ผลิตภัณฑ์สุดท้ายเป็นกลูโคส ซึ่งสามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด เพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานของร่างกาย ซึ่งหากรับประทานแป้งมากจนเกินไปก็จะทำให้เกิดไขมันสะสมและเกิดโรคอ้วนตามมา อย่างไรก็ตาม ยังมีแป้งอีกกลุ่มหนึ่งที่สามารถทนต่อการย่อยสลายด้วยเอนไซม์ในลำไส้เล็กได้ เรียกแป้งกลุ่มนี้ว่า “แป้งทนการย่อย” (Resistant starch ; RS) แป้งดังกล่าวสามารถแบ่งออกเป็น 4 ชนิด โดย แป้งทนการย่อยต่อเอนไซม์ชนิดที่ 2 (Resistant starch 2; RS2) เป็นแป้งทนการย่อยที่อยู่ในรูปของเม็ดแป้งดิบ พบได้มากในกล้วยดิบและแป้งสตาร์ชมันฝรั่ง

Resistant Starch 2 (RS2) ในแป้งกล้วยดิบ2021-02-12T11:47:32+07:00
Go to Top